เทคนิคพิชิตเด็กร้องไห้



พ่อแม่แต่ละคนอาจมีวิธีปลอบเจ้าตัวน้อยที่แตกต่างกันออกไป เพราะทารกแต่ละคนย่อมชอบวิธีการปลอบที่ไม่เหมือนกัน หากลองแก้ไขตามสถานการณ์ที่กล่าวมาแล้วยังไม่ได้ผล อาจลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ได้
  • กล่อมด้วยการอุ้มแล้วโยกไปมาเบา ๆ เป็นการอุ้มทารกพร้อมโยกเบา ๆ อาจช่วยให้สงบลงได้ คุณแม่อาจลองอุ้มนั่งบนเก้าอี้โยกไปมา แกว่งไปมาเบา ๆ ขณะเดิน หรือแม้แต่วางลงในเปลแล้วแกว่งไปมา
  • ใช้เสียงเพลงแบบไวท์ นอยซ์ การลองเลียนแบบเสียงเล็กเสียงน้อยคุยกับเด็กหรือเลือกใช้โทนเสียงที่เรียกว่า ไวท์ นอยซ์ (White Noise) ซึ่งเป็นเสียงที่ราบเรียบ มีความถี่สม่ำเสมอ (คล้ายกับเสียงของไดร์เป่าผม เครื่องซักผ้า พัดลม เสียงฝน) เนื่องจากขณะที่เด็กอยู่ในท้องจะคุ้นเคยกับเสียงในลักษณะนี้ คล้าย ๆ กับเสียงเต้นของหัวใจแม่มานานตลอดช่วงเวลาอยู่ในครรภ์ การพยายามเลียนแบบให้เด็กรู้สึกคุ้นเคยกับบรรยากาศเดิมอาจช่วยให้เด็กเคลิ้มหลับหรือเงียบลงได้ ในปัจจุบันสามารถหาซื้ออุปกรณ์ที่ให้เสียงไวท์ นอยซ์อย่างซีดีหรือแอพพลิเคชั่นที่เป็นไวท์ นอยซ์ในสมาร์ทโฟนมาเปิดให้เด็กฟังได้  
  • เปลี่ยนท่าทางขณะให้นม ทารกบางคนอาจร้องไห้ขณะดูดนมหรือหลังอิ่ม เนื่องจากการอุ้มในลักษณะที่ทำให้เด็กไม่สบายตัว อาจลองปรับท่าทางการอุ้มเด็กให้ผ่อนคลายและไม่เกร็ง คุณแม่สามารถปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลถึงการอุ้มลูกอย่างถูกวิธีได้ รวมไปถึงคุณแม่ควรมีการอุ้มให้ลูกเรอหลังการกินนม โดยการอุ้มพาดบ่าแล้วลูบหลัง เพื่อไล่ลมออกจากท้องและยังช่วยป้องกันท้องอืด  
  • ดึงดูดความสนใจเด็ก การพาเด็กออกไปเดินเล่น เปลี่ยนบรรยากาศ หรือทำกิจกรรมอะไรใหม่ ๆ หลังจากการร้องไห้ เช่น ออกไปเดินนอกบ้าน เต้นหรือร้องเพลงให้เด็กฟัง เพื่อดึงดูดความสนใจจากการร้องไห้ ก็อาจช่วยเปลี่ยนอารมณ์เด็กให้ดีขึ้นได้
  • ร้องเพลง คุณแม่อาจฮัมเพลงเบา ๆ ในจังหวะที่เคยร้องให้ลูกฟัง คลอไประหว่างการปลอบให้เด็กหยุดร้อง ทารกมักคุ้นเคยและชอบที่จะได้ยินเสียงของแม่ นอกจากนี้ทารกก็มักจะชอบเสียงเพลงเหมือนกัน คุณแม่หรือคุณพ่ออาจลองเปิดเพลงหลากหลายแนว เพื่อหาสไตล์เพลงที่ทำให้เด็กรู้สึกสงบลงเมื่อได้ฟังก็อาจเป็นอีกตัวช่วยที่ดีในการกล่อมเด็กร้องไห้ให้เงียบลงได้
สิ่งสำคัญของพ่อแม่ในการปลอบเจ้าตัวน้อยให้หยุดร้อง คือ ต้องเรียนรู้ว่าวิธีไหนที่ใช้ได้ผลมากที่สุดและใช้ได้ในสถานการณ์ใดบ้าง เผื่อครั้งหน้าอาจใช้เป็นไม้ตายรับมือกับการร้องไห้ของเจ้าตัวยุ่งอย่างได้ผล เพราะเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน

ปรับตนเองอย่างไรไม่ให้หัวเสียเมื่อลูกร้องไห้ ?

เด็กที่ร้องไห้งอแงอาจทำให้พ่อแม่หลายคนฟิวส์ขาดเอาได้ง่าย ๆ เพราะไม่รู้ต้องทำอย่างไรให้เด็กหยุดร้อง พ่อแม่จำเป็นต้องรู้จักควบคุมตนเองเช่นกัน เพื่อให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดียิ่งขึ้น หากเริ่มรู้สึกหงุดหงิด คุณแม่อาจขอความช่วยเหลือให้คุณพ่อหรือญาติพี่น้องช่วยดูแลแทนให้ชั่วครู่ เพื่อจะได้พักก่อนกลับมารับมือกับปัญหาได้ดียิ่งขึ้น พยายามใจเย็นและเข้าใจถึงสถานการณ์ว่าการร้องไห้เป็นเพียงช่วงเวลาหนึ่งของเด็ก เมื่อเด็กโตขึ้นจะเริ่มร้องไห้น้อยลง นอกจากนี้การดูแลตนเองให้อยู่ในสภาพพร้อมก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เช่น ไม่ปล่อยให้ตนเองหิวหรือนอนหลับไม่เพียงพอจนอาจโมโหลูกได้ง่าย

หากสนใจหาพี่เลี้ยงเด็ก สามารถติดต่อสอบถามปรึกษาเรื่อง พี่เลี้ยงเด็กพี่เลี้ยงฟิลิปปินส์ ได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.kidnario.com
Facebook : https://www.facebook.com/KiDNARIO

Comments

Popular posts from this blog

สัมภาษณ์พี่เลี้ยงเด็กอย่างไรให้ได้คน"ดี" จริง?

เด็กที่ปรับตัวช้า (slow to warm up)

พี่เลี้ยงเด็ก กับ ครูอนุบาลแตกต่างกันอย่างไร